ขั้นตอนและวิธีการ

🛑 คลี่ผ้าม่านออกจนสุดราวม่านหลังการใช้งานทุกวัน  ใช้ฝักบัวฉีดล้างคราบสบู่คราบแชมพูออกให้สะอาด ทั้ง 2 ด้าน 

🛑 ผึ่งลมทิ้งใว้ให้แห้ง ห้ามรวบม่าน ไม่ควรใช้ม่านในห้องซาวน่า หรือห้องที่มีความร้อนสูง ไม่ควรให้ม่านโดนแดด ตลอดเวลา

เราสามารถทำความสะอาดม่านห้องน้ำโดยไม่ต้องถอดได้ ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้ใช้น้ำส้มสายชูอ่อนๆ เช็ดทำความสะอาด"น้ำส้มสายชูจะขจัดคราบสบู่ แชมพู ที่เกาะตามผิวของผ้าม่านห้องน้ำออก" 

ขั้นตอนและวิธีการใช้ น้ำส้มสายชูและข้อควรระวัง

🛑การเตรียม "น้ำส้มสายชู" : ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน กับน้ำเปล่า 1 ส่วน บรรจุในขวดเสปรย์,คลี่ผ้าม่านห้องน้ำออกตามแนวราวม่าน

🛑พ่นเสปรย์น้ำยา : พ่นเสปรย์น้ำยาที่ผสมแล้วให้ทั้วตลอดทั้งผืน ทั้ง 2 ด้าน โดยเฉพาะบริเวณขอบด้านล่าง ให้เน้นเป็นพิเศษทิ้งไว้ ประมาณ 15  นาที

🛑ล้างและผึ่งลม : ใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดทั้งสองด้าน จากด้านบนจนถึงด้านล่าง จนแน่ใจว่าไม่มีคราบสบู่และ แชมพูแล้ว ผึ่งลมให้แห้ง ห้ามถอดไปตากแดด 

ข้อควรระวัง : ควรทำความสะอาดโดยวิธีนี้ ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์/ครั้ง (การทำบ่อยๆอาจทำให้สารเคลือบเสื่อมคุณภาพได้)

ม่านห้องน้ำเนื้อผ้า ส่วนใหญ่สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ ควรตรวจสอบป้ายกำกับสินค้า (Instruction Care Tags ) ที่ติดมากับสินค้า

ขั้นตอนและวิธีการซักม่านห้องน้ำด้วยเครื่องซักผ้าและข้อควรระวัง

1. อ่านป้ายกำกับสินค้า (Instruction Care Tags ) ที่ติดมากับสินค้าของผู้ผลิต
อ่านรายละเอียดที่ติดมากับสินค้า เช่น อุณหภูมิการซัก การปั่น การใช้สารเคมี เป็นต้น  แต่ส่วนใหญ่แล้ว       การซักม่านห้องน้ำด้วยเครื่องซักผ้าจะมีรายละเอียดการซักดังนี้ 1/ซักด้วยน้ำอุ่น 2/ห้ามปั่นผ้ารุนแรง 3/ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาว

2. วิธีการซักด้วยเครื่องซักผ้า

นำผ้าม่านใส่ในเครื่องซักผ้า เติมน้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้องปกติ(ใส่ผงซักฟอกอ่อนๆได้) เติมน้ำระดับสูงสุด  กดซักที่ความแรงการปั่นเบาที่สุด สังเกตว่าผ้าสะอาดแล้วให้หยุด แต่ถ้ายังไม่สะอาดให้ซักน้ำเปล่าซ้ำได้จนกว่าคราบสะบู่ออกหมด เสร็จแล้วปั่นให้แห้ง

3. วิธีการซักด้วยมือ

ถอดผ้าม่านห้องน้ำมาซักมือด้วย น้ำเปล่าที่อุณหภูมิห้องปกติ(ใส่ผงซักฟอกอ่อนๆ) สังเกตว่าผ้าสะอาดแล้วให้หยุด แต่ถ้ายังไม่สะอาดให้ซักน้ำเปล่าซ้ำได้ บิดให้แห้ง

4. การผึ่งลม
หลังจากซักเสร็จแล้ว นำผ้าม่านห้องน้ำมาผึ่งลมในที่ร่มเท่านั้น ห้ามตากแดด

5. การรีด
ม่านห้องน้ำผ้าโพลีเอสเตอร์และม่านห้องน้ำผ้าโพลีน่อน สามารถรีด ด้วยเตารีดไฟอ่อนๆได้ ส่วนม่านห้องน้ำเนื้อผ้าไนล่อนห้ามนำมารีดด้วยเตารีด แต่โดยปกติแล้วม่านห้องน้ำผ้าโพลีเอสเตอร์และม่านห้องน้ำผ้าโพลีน่อน ไม่จำเป็นต้องรีด ผ้าจะคืนตัวเองเมื่อแขวนใช้งาน 2-3 วัน

ข้อควรระวัง:ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาว/ใส่ผงซักฟอกอ่อนๆ/ห้ามอบผ้า( การอบผ้าอาจทำให้สารเคลือบเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าปกติ)

ม่านห้องน้ำเนื้อพลาสติก( PVC,PEVA,EVA) ไม่สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ ให้ใช้วิธีถอดมาทำความสะอาด

ขั้นตอนและวิธีการซักม่านห้องน้ำเนื้อพลาสติกและข้อควรระวัง

1. อ่านป้ายกำกับสินค้า (Instruction Care Tags ) ที่ติดมากับสินค้าของผู้ผลิต
อ่านรายละเอียดที่ติดมากับสินค้า เช่น การถอดผ้าม่าน การทำความสะอาด การผึ่งลม เป็นต้น

2. ถอดผ้าม่านจากราวม่าน 

 ถอดม่านห้องน้ำออกจากราวม่านด้วยความระมัดระวัง (ผ้าม่านอาจฉีกขาดได้)

3. การทำความสะอาด 

ให้กางม่านห้องน้ำออกในพื้นที่กว้างๆ ใช้ผ้าชุบน้ำเปล่า หรือ ผสมผงซักฟอกอ่อนๆ เช็ดทำความสะอาดทั้ง 2 ด้าน 

หากมีคราบสบู่ หรือแชมพูเกาะจำนวนมากให้ ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน กับน้ำเปล่า 1 ส่วน บรรจุในขวดเสปรย์,คลี่ผ้าม่านห้องน้ำออก พ่นเสปรย์น้ำยาที่ผสมแล้วให้ทั้วตลอดทั้งผืน ทั้ง 2 ด้าน โดยเฉพาะบริเวณขอบด้านล่าง ให้เน้นเป็นพิเศษทิ้งไว้ ประมาณ 15  นาที

4. ล้างและผึ่งลม 

 ใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดทั้งสองด้าน จากด้านบนจนถึงด้านล่าง จนแน่ใจว่าไม่มีคราบสบู่และ แชมพูแล้ว ผึ่งลมให้แห้ง ห้ามตากแดด 

ข้อควรระวัง:ห้ามใช้น้ำยาฟอกขาว/ใส่ผงซักฟอกอ่อนๆ/ห้ามตากแดด( การตากแดดผ้าอาจทำให้สารเคลือบเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าปกติ)

เหมาะสำหรับม่านห้องน้ำเนื้อผ้า และม่านห้องน้ำเนื้อพลาสติก

หากมีการใช้ม่านห้องน้ำนานๆโดยไม่ได้ซักทำความสะอาด อาจเกิดเชื้อราบนผ้าม่านห้องน้ำได้ การขจัดคราบเชื้อราฝั่งแน่น สามารถทำได้ดังนี้

• น้ำยาขจัดเคลือบเชื้อรา
  ผสมไฮโดรเจ่นเปอร์ออกไซด์ 2 ส่วน กับน้ำ 1 ส่วน บรรจุในขวดพ่น หรือ หาซื้อ น้ำยาที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจ่นเปอร์ออกไซด์ หาซื้อได้ใน Shopee และ Lazada ขวดละประมาณ 30-100 บาท

• พ่นเสปรย์น้ำยาขจัดเชื้อรา
  พ่นน้ำยาไปบนจุดที่เกิดเชื้อรา ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก

• ขัด ล้างและผึ่งลมให้แห้ง
  ใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดทั้งสองด้าน จากด้านบนจนถึงด้านล่าง จนแน่ใจว่าไม่มีคราบเชื้อราแล้ว ผึ่งลมให้แห้ง ห้ามถอดไปตากแดด